โทรศัพท์เป็นอะไรที่เด็กขาดไม่ได้

เรื่องโทรศัพท์รู้สึกว่าจะมีอิทธิพลมาก เล่นทุกที่ทุกเวลา
เป็นปัญหา คือ เด็กแบ่งเวลาไม่เป็น เล่นในคาบเรียนหน้าตาเฉย พอครูอธิบายบทเรียน ก็ไม่ฟัง ทีนี้ก็มาถามทีหลัง งานก็ทำไม่เสร็จ
ตอนแรกของการเปิดภาคเรียน แน่นอนเราจะมีการตั้งกฏกติการ่วมกัน และเด็กก็รับทราบ ว่า
"อาหาร เครื่องดื่ม และโทรศัพท์ ห้ามเด็ดขาด" และถ้าเห็นจะเดินเข้าไปยึดทันที เลิกคาบค่อยมารับคืน

แต่ปรากฏว่า หลัง ๆ เด็กจะไม่เคารพในกฏที่ร่วมกันสร้างขึ้น
และถ้าหากเราบอกแล้วไม่หยุด เดินไปยึด ก็จะทำสีหน้าและแสดงท่าทางไม่พอใจกับเราทันที โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง
จะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจ บางทีเราก็คิดว่า หรือเราจะใช้ไม้แข็งเกินไป
แต่ก็เคยลองใช้วิธีพูดดี ๆ พูดกันด้วยเหตุผล อ้างอิงกฏที่เราร่วมกันตั้งมา
ซึ่งเค้าก็ฟัง แต่อาทิตย์ต่อมาก็เป็นอีกเหมือนเดิม

- ประสบการณ์ที่พบเจอ อยากแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้รู้ -

ลองย้อนถามกลับไปข้อตกลงที่ร่วมกันสร้างขึ้น พูดดีๆ ถ้าด่าเด็กจะรู้สึกอับอายพ่ายเเพ้ เเล้วจะทำอีกเพื่อที่จะเอาชนะครู
"อย่าเรียกร้องประชาธิปไตยให้ประเทศชาติ หากตัวเธอยังไม่เคารพประชาธิปไตยที่ร่วมกันสร้างขึ้นในห้องเรียน"

สำหรับโรงเรียนเราเพิ่งจะมีมาตรการใหม่
คือ มีชั้นสำหรับฝากโทรศัพท์ประจำห้อง ก่อนเรียน เด็กต้องฝากโทรศัพท์และรับโทรศัพท์คืนเมื่อเด็กเรียนเสร็จ
ซึ่งมีชั้นฝากโทรศัพท์นี้ ยังมีเพียงบางห้องเท่านั้น คาดว่าจะมีทุกห้องเร็วๆนี้
แต่ถือว่าโรงเรียนค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องนี้

ส่วนตัวคิดว่า เป็นทางที่ตัดปัญหานี้ได้ดีเลยค่ะ

การใช้โทรศัพท์เป็นเหมือนกัน เราเข้ามาในห้องเราก็เลยบอกว่า เก็บนะคะไม่งั้นยึด เเรายังไม่อยากยึด เพราะมันจะดูเหมือนเป็นอะไรที่ทำร้ายจิตใจเค้ามาก เค้าก็เก็บนะแต่ก็มีแอบเล่นเราก็ปรามไว้ก็ได้อยู่ อาจะเป็นเด็กประถมด้วยมั้งเลยกลัวการโดนยึด เพราะเราบอกว่าจะไม่คืนให้จนกว่าผู้ปกครองจะมารับเอง แต่ชอบมาตรการแบบ รร ปอยมาก มีชั้นวางโทรศัพท์แบบตัดปัญหาไปเลย ยิ่งช่วงนี้มีเกมจับโปเกมอน เด็บางคนทำภาระงานเสร็จแล้วก็มีบอกว่า ครุครับผมทำงานเสร็จแล้วขอเล่นเกมนะคะ เราเลยบอกไม่ เพราะตกลงกันแล้วว่าห้ามใช้ดทรศัพท์ในห้องเด็ดขาด เค้าก็ไม่เล่น

สำหรับของเค้าไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ อาจจะเพราะเป็นชั้นม.ต้นด้วยมั้ง
แต่ก็มีบางคนแต่เราปรามไว้ได้
พอดีในคาบจะให้ใช้โทรศัพท์ให้การค้นหาคำศัพท์ หรือใช้ค้นหาข้อมูล
คิดว่าอีกทางหนึ่งคือที่ทำให้เด็กเล่นโทรศัพท์ลดลง คือ เราต้องจัดสรรกิจกรรมให้เหมาะสมกับเวลาและความสามารถของเด็ก
คือให้พอดีเวลาจนเด็กไม่มีเวลาที่จะทำอย่างอื่น

ครูติดหรือเปล่า ล่ะ เริ่มที่ครูก่อน

สำหรับห้องเรียนของเรา เรื่องโทรศัพท์เป็นอะไรที่เด็กขาดไม่ได้ก็จริง เราบอกเด็กเสมอว่าเวลาเรียนก็เรียนให้เต็มที่ เวลาเล่นก็เล่นให้เต็มที่ จะมาเล่นเวลาเรียนไม่ได้ คาบแรกที่เราเข้าสอนของทุกๆ ระดับชั้น เราจะวางกฏไว้และบอกให้เข้าใจว่าทำไมถึงทำได้ และ ทำไมถึงทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องโทรศัพท์จะไม่เป็นปัญหาในห้องเรียนของเรา เมื่อเด็กเห็นเราเดินเข้าไปในห้อง เด็กก็จะรีบเก็บทันที เนื่องจากมีกรณีตัวอย่างให้เห็น คือ นักเรียนผู้ชายคนหนึ่งเล่นโทรศัพท์ตลอดเวลาที่มีการเรียนการสอน เราบอกว่าให้เก็บๆ อยู่ตลอดเวลา พอเวลาผ่านไปซักระยะ เราก็เลยเดินไปยึดโทรศัพท์เด็กมา ทั้งตัวเด็กและนักเรียนคนอื่นก็มองตกใจ เราจึงต้องอธิบายว่า กฏที่เราตั้งไว้ร่วมกันคืออะไร เด็กจึงไม่คัดค้านและรีบเก็บโทรศัพท์ลงทันที เรายึดโทรศัพท์ทั้งวันเพียงเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนแอบเล่นโทรศัพท์ในคาบเรา คนแอบเล่นก็มี ทีนี้เราเลยเปลี่ยนมาเป็น เด็กดี ทำดี ได้สติกเกอร์ เด็กคนไหนที่ปฏิบัติตามกฏที่วางไว้ ตั้งใจเรียน เราก็จะให้สติกเกอร์ แล้วเด็กกระตือรือร้นมาก ฉะนั้นการเล่นโทรศัพท์ของเด็กนั้นขาดไม่ได้ก็จริง แต่เราก็ต้องสอนให้เด็กรู้จักใช้ให้เป็นเวลา