ศุภลักษณ์
Presentation
1. เวลาถามเด็กก็ให้ โหยหาคำตอบหน่อย เช่น ถามว่า How was your weekend? ก็รอคำตอบหน่อย
เด็กเธอไม่ชิน ถ้าเขาสามารถคุยกับครูได้ ช่องว่างระหว่างครูกับเด็กจะลดลง
2. ตั้งคำถามก่อน ฟัง เปิดหลายๆ รอบ เน้นตรงคำตอบ คือ ฟังแบบสแกน ใส่ใจ สังเกตว่าฟังออกไหม ค่อยๆช่วยเหลือ หาวิธีแก้ปัญหาขณะนั้น มันจะทำให้มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
3. ทำไมมีเพื่อนยืนอยู่ข้างหลังห้อง เขาสังเกตอะไรหรือ ให้สังเกตชั่วโมงอื่นที่ไม่ถ่าย VDO หรือเธอสอนดีเฉพาะวันสอน VDO
4. อือ พยายามเข้า ถ้าเด็กไม่เข้าใจ อย่ายอม อย่ากลัวเสียเวลา มันเสียเวลา ที่กลัวเสียเวลา ไม่เห็นว่าเด็กได้อะไร จน ม. 1 แล้ว เด็กเริ่มอยู่กับเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสู้ต่อไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเรียนมีใครบ้างไม่อยาก
ได้ดี คนที่ช่วยเหลือเขาให้ได้ดีคือครูนะ จริงจัง จริงใจด้วย (บอกครูทุกคน)
Listening
1. เลียนแบบ The Money drop ฉันว่ามันได้มากกว่า Interpersonal นะ มักน้อยเกินไปหรือเปล่า
2. ให้มีคำถามหลากหลายมากกว่า T/F อุตส่าห์ทุ่มทุนสร้าง แต่ทำแค่ T/F ซึ่งแทบวัดไม่ได้ว่าเด็กฟังออก
Reading
1. เช่นกัน Jigsaw reading ได้มากกว่า Visual นะ
2. ทำไมฉันไม่เห็นเด็กเปิดหนังสือ เขาต้องอ่าน text3 ซึ่งอยู่ในหนังสือเรียนของเขานะ
3. อย่าอธิบายไทย ถ้าขั้นตอนซับซ้อนให้ใช้การสาธิตจนทุกคนเข้าใจ ก่อนลงมือปฏิบัติ
4. มันคือการสำรอก text 3 ที่เต็มไปด้วยศัพท์วิชาการ ทำไมออกมาเป็นรูป อุตส่าห์ใช้ jigsaw ผลออกมาเป็นภาพซะงั้น ขี่ช้างจับตั๊กแตนไปไหม ขั้นอ่านไม่ต้องพูดเสนอก็ได้ ควรฝึกอ่านออกเสียงด้วย แทนที่จะมาสอนอ่านงานนำเสนอหน้าชั้น หรือถ้ามีเวลาต้องให้เด็กฝึกนำเสนอ เพราะมันได้ ชี้วัด 1.3 แต่ก็ต้องให้บรรลุผลการใช้ Jigsaw คืออ่านเพื่อความเข้าใจ ควรวัดตามจุดประสงค์และกิจกรรมแต่ละอย่างต้องเลือกใช้ให้เมาะกับจุดประสงค์จะได้ไม่ผิดฝาผิดตัว
Speaking
Role play กลายเป็น role read แถมอ่านไม่ออก เป็นตาหลูโตนลูกหลานไทย อ่านอังกฤษ บ่ออก ม.1
สู้ๆ นะ วิว ไม่ต้องบอกใคร สู้เลย สู้คนเดียว ตั้งจิตอธิษฐาน ถ้าเด็กอ่านไม่ออก อย่าเรียกว่าวิว
สิ้นปีเขาดีขึ้นแน่นอน
Writing
Writing ทำไมได้ verbal ฉันว่ามันชักยังไงๆ อยู่นะ intra o.k
ให้ A ซะ ลองเบิ่ง
บ้าน