feedback รอบรองสุดท้าย

รุ่งเพชร B+++

Comprehensible input
1. เช็ค pronunciation คำว่า career / เมื่อ 13 ปีก่อนก็อ่านผิดเหมือนกัน
2. กิจกรรม lead in ดี กระตุ้นให้ทุกคนตื่นตัวและได้ซ้อมขยับปาก แต่มันยาวไปมั้ย เท่าที่ดูน่าจะต้องพูดต่อกันทั้งห้อง เวลาพอเหรอ ดีที่ตัวกิจกรรมสอดคล้องกับ text 2 เป็นการ warm up ได้ดี
3. vocab ไม่มี definition ยาว ๆ ที่บางทีอ่านแล้วไม่เข้าใจ แต่ครูเน้นการอธิบายขยายความโดยยกตัวอย่างและมี visual aid ประกอบ ดีมาก / ตัวอย่างการใช้ศัพท์ในประโยคได้พูดมั้ย เห็นขึ้นจอแต่ไม่ได้แตะ / หนังสือเรียนใช้ของค่ายไหน US หรือ UK ทำไมถึงเลือกใช้คำอ่าน businessman แบบ UK ตอนอธิบายคำนี้น่าจะใช้คำอื่นแทน CEO น่าจะเข้าใจง่ายขึ้น / มีการสอน pronunciation ที่ดี
4. ออกเสียง volleyball ได้เป๊ะตามที่สอน ดีมากกกกกกก (น่าจะดีไม่น้อยถ้ามีเสียง native มาเปิดให้ฟังเวลาเด็กแย้งครูจะได้มีหลักฐานมาแสดง เกิดการโต้แยงกันแบบวิชาการ แต่ก็คงจะเป็นการขัดจังหวะการป้อน text 2 และนอกเรื่อง)
5. ทำไมเราเรียนมาไม่เหมือนกันเรื่อง going to - will อันนึงจะเกิดในอนาคตอันใกล้ อีกอันอีกนานกว่าจะเกิด / เริ่มงงว่า future intention + decision that is already made regarding the future จำเป็นต้องอีกนานกว่าจะเกิดเหรอ
6. มีสอนสแลง gonna ดี ได้เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมการใช้ภาษาด้วย
7. สอนแค่ going to ไม่มี will แต่ตอนให้ตัวอย่างมี will ด้วย มันน่าจะมีคนงงมั่งแหละว่าแล้วตกลงมันต่างกันยังไง พูดสองตัว สอนตัวเดียว
8. เปิดเสียง text 3 และพาอ่านทีละประโยค ดี

Getting
1. ใบแรกบอก blue card อีกอันบอก the letter pink card คือยังไง
2. getting 1 เริ่มจากง่ายแค่ตอบ T/F จาก text 3 แล้วค่อยไป getting 2 ให้แต่งประโยคโดยใช้ keyword จาก video ซึ่งตรงนี้เห็นชัดว่าหลายกลุ่มยังทำผิดแม้จะเป็นแค่การแต่งประโยคโดยเปลี่ยนจาก infinitive เป็น going to ตรงนี้น่าจะเป็นเพราะอะไร? Directions ไม่ชัดเจนพอ? ตัวอย่างไม่เคลียร์? ป้อนไม่แน่นพอ? หรืออะไรยังไง แต่ดีตรงที่มีแทรกการสอน writing skills ไปในตัวตอนตรวจ / ถ่าย video บนจอให้ดูบ้างก็ดี อยากรู้ว่านักเรียนดูอะไรกัน

Using
1. ใน text 2 สอนแค่ be going to แต่ในขั้นนี้มีให้เลือกใช้ intend และ want เพิ่มมาด้วย จะงงกันมั้ยนั่น หรือมีสอนแต่ตัดต่อออกไป?
2. เห็นได้ชัดอีกครั้งว่ายังมีนักเรียนงงกับการเขียนถึงอาชีพที่อยากทำในอนาคตเพราะยังใช้ “be going to + อาชีพ” ซึ่งเมื่อย้อนไปดูในขั้น input อีกทีก็เห็นว่าครูสอนแค่ be going to + V1 / unit พูดถึงอาชีพในอนาคตก็น่าจะมีรูปประโยคที่ใช้พูดถึงอาชีพให้ชัดเจน แยกให้เห็นชัด ๆ เลยระหว่างจะทำอะไรกับจะเป็นอะไร
3. เขียนถึงตรงนี้ก็ยังงงว่า intend กับ want มาจากไหน แล้ว will ที่เคยพูดคู่กับ going to หายไปไหน ทำไมไม่พามาด้วยทั้งที่เป็นคู่พระนางกัน

เสาวนารี B++

Comprehensible Input
1. “What pick pocket actually is?” NOT “What actually pick pocket ซือๆ”
2. ไม่เกริ่นหน่อยเหรอว่าจะเรียนอะไรใน unit นี้
3. คำว่ากระเป๋าสตางค์คือ pocket หรืออย่างอื่น? ทำไมใช้ว่า steal pocket
4. lead in เบาไปนิด น่าจะชวนคุยถึง pick pocket ต่ออีกนิดว่าใครเคยเจอบ้าง ใครเคยโดนบ้าง อะไรทำนองนี้ ไม่ต้องรีบกระโดดเข้า text 1 ก็ได้
5. ใช้ visual aid อธิบายความหมายศัพท์ได้ดีมาก อาจใช้เวลานานไปหน่อยสำหรับคำแรก
6. ตัวอย่างศัพท์ในประโยคอาจหาคำอื่นที่เข้าใจง่ายกว่า bump into ไม่งั้นจะต้องอธิบายศัพท์เพิ่มอีกคำในขณะที่คำหลักอาจยังไม่เข้าใจ
7. “On the other hand” NOT “In the other hand”
8. บางคำไม่มี definition แต่ก็สามารถอธิบายได้ดี เห็นภาพชัดเจน
9. ออกเสียงชื่อทีม Arsenal สำเนียงออกไทยไปนิดนะ 555
10. text2 ตัวเล็กไปมั้ย เล่นสีของ background เยอะไปนิด ดูลายตา ถ้าจะใช้ text สีขาวก็ควรใช้ background เข้มไปเลยทีเดียว ถ้าแบบ text ขาว background ย่อยเข้ม background หลักขาวอีก ม่านตาจะปรับโฟกัสไปมา ปวดตาในที่สุด
11. การอธิบาย past perfect ถ้าวาดเส้น timeline ช่วยจะเห็นภาพชัดขึ้น แต่ที่ทำก็ดีนะ เดินสลับที่ไปมาพร้อมแสดงท่าทาง..... never mind เห็นเส้น timeline ทีหลัง แต่ไหน ๆ มีแล้วก็น่าจะป้อนเพิ่มอีกหน่อย ใส่ตัวอย่างเยอะ ๆ หรืออาจจะเช็คความเข้าใจโดยให้สักคนสองคนแต่งประโยคพร้อมขึ้นมาชี้ที่ timeline ประกอบ / โดยรวมอธิบาย text 2 ได้ clear cut ชัดเจนดีมาก
12. ช่วงต่อไป text 3 บอกเพิ่มหรือย้ำอีกครั้งก็ดีว่าจะให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องอะไร ต้องสังเกตหรือ highlight คำไหนเป็นพิเศษมั้ย
13. มีคำว่า bump into ใน text 3 แล้วทำไมถึงไม่เลือกคำนี้ไปสอนใน text 1 หละ / ไหนจะคำว่า let your guard down อีก คำนี้น่าสนใจและสำคัญในการเข้าใจเนื้อเรื่อง ว่ามั้ย?
14. ตอนอธิบาย text 3 ครูนำเอาศัพท์ที่ได้สอนไปใน text 1 มาพูดย้ำไปย้ำมา ดีมาก
15. ถึงจุดนี้ น่าจะอธิบายหรือแสดงตัวอย่างคำว่า bump into ให้มากกว่าการที่ครูเอามือข้างหนึ่งตีกระทบอีกข้างนึง บางคนอาจจะยังไม่เห็นภาพ
16. ช่วงเช็คความเข้าใจ ครูควรลด teacher talk ลง และพยายามกระตุ้นให้คนอื่น ๆ นอกจากเด็กแถวหน้าตอบ
17. That Maya succeed in napping his friend’s wallet? ครูเหมือนจะสับสนในเพศของตัวละครและการถามคำถาม
18. เด็กหลังห้องเถียงกันว่า Maya จะอ่านว่า มา-ยา หรือ เม-ญ่า ครั้งต่อไปครูควรทำการบ้านเรื่อง pronunciation ให้มากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องชื่อ

Getting it
1. ครูเริ่มลิ้นพันกันพูดคำว่า nonsense ไม่มี final sound
2. กิจกรรม nonsense word นี่ทำไมบางประโยคเลือกใช้คำที่ไม่ได้สอนใน text 1
3. เร่งกิจกกรมแรกไปมั้ย เด็กหลังห้องยังงงอยู่ว่าอะไรยังไง จู่ ๆ เปลี่ยนกิจกรรมละ คราวหน้าบอกก่อนก็ดีว่ามีกี่กิจกรรม แต่ละกิจกรรมทำอะไร กี่ข้อ นานแค่ไหน จะได้ไม่งงเวลาเปลี่ยน หรือครูควรมี transition ที่ลื่นไหลกว่านี้
4. กิจกรรมสอง directions งงมาก แต่พอแสดงตัวอย่างก็เคลียร์ดี
5. ตอนที่สุ่มกลุ่มออกมานำเสนอกลุ่มที่ถูกเลือกมีแอบบ่นว่าทำไมไม่เป็นกลุ่มอื่น ต่อไปเวลาเลือกใครออกมาก็น่าจะให้ positive reinforcement เพิ่มนิดนึง
6. ปล่อยให้มีเสียงโทรศัพท์ดังขณะเรียนและครูเพิกเฉย ไม่ผ่าน ต้องมี discipline ให้มากกว่านี้ อย่าใจดี อย่าปล่อยผ่านเ แม้จะอยู่ในระหว่างการบันทึกวีดีโอก็อย่าได้แคร์ discipline ต้องมีในทุกสถานการณ์ถ้าจำเป็น!!!!!!!!!!!!!
7. เด็กนำเสนอ had been crashed by ครูพูดว่า had crashed by ความหมายเปลี่ยนมั้ย???
8. had feared big spiders แสดงว่าปัจจุบันไม่กลัวแล้ว???
9. ให้เขียนประโยคเดียวอาจจะเบาไปหน่อยสำหรับเด็กเก่ง ถ้าให้มีทั้ง past perfect และ past sim เพื่อให้เห็นภาพลำดับเหตุการณ์จะท้าทายกว่ามั้ย

Using it
1. ถ้าอยากให้อยู่กลุ่มเดิมก็ดี ไม่จำเป็นต้องถามว่าอยากเปลี่ยนมั้ย ใช้ ม.44 บ้าง จะได้ไม่เสียเวลาจับกลุ่มใหม่
2. โจทย์ของกิจกรรมนี้ดูเบาไปมั้ย ถ้าคนไม่อยากคิดอะไรมากก็เปิดหนังสือลอกประโยคจากหนังสือมาแบบ verbatim ได้เลย ที่เด็กจะคิดทำก็มีแค่ใส่ลีลาใน role play ไม่ได้มีการใช้ text 2 เลย เน้นสนุกอย่างเดียวเห็นได้จากกลุ่มตัวอย่างที่ให้มานำเสนอ ฟังห้ารอบยังจับ past perfect ไม่ได้เลยสักประโยค เหมือนไม่ประสบความสำเร็จ

ณัฐธินินทร์ B

Comprehensible Input
1. my daily life มาย ดายลี่ ไลฟว์ – จะคิดซะว่าเป็นสำเนียงนึงของสักประเทศในโลกละกันนะ
2. จะ lead in ทั้งทีน่าจะทำได้มากกว่าถาม Do you know what… is? แล้วให้ definition แล้วจบด้วย Do you understand? เรียกให้ยกตัวอย่างมาเลยจะดีกว่ามั้ย
3. What chores does we have to do inside? ?????????????
4. ไม่ได้ยินครูใช้ CL ตอนให้ฟังเสียงแล้วอ่านตาม เด็กก็งงว่าจะทำไงเมื่อฟัง บางคนก็นั่งเฉย บางคนรู้งานก็อ่านตาม
5. ไม่จำเป็นต้องถามว่าเข้าใจมั้ยในทุกขั้นที่สอน เพียงแค่มองก็น่าจะรู้ปฏิกิริยาว่าเข้าใจหรืองง ที่ถามไปแล้วตอบ yes ทุกครั้งเนี่ยรู้ได้ไงว่าเข้าใจ วัดจากอะไรนอกจากคำตอบ yes / ถ้าดูแล้วเด็กยังงง ครูควรหาตัวอย่างมาเสริม ใช้ตัวอย่างที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นประโยคตัวอย่าง หรือ visual aids อื่น ๆ ประกอบ
6. เหมือนลิ้นจะพันกันนะตอนที่พูดคำว่า wear
7. When you wear your shirt next day you have to put it to the laundry. คืออะไร ยังไง เสื้อที่ใส่แล้วจัดเป็นหนึ่งใน laundry ไม่ใช่เหรอ ทำไมต้อง put it to อะไร ยังไง งง
8. ป้อน text 2 เบาไปมั้ย ไปเร็วมาก text 1 ก็ว่าเร็วละนะ
9. ไฟล์เสียง text 3 มาท่อนเดียวจบเลยเหรอ ไม่ได้ซอยย่อยแล้วพาอ่านทีละท่อนเหรอ
10. Luke room – เสียง ’s หายไปไหน / What Luke room like? เอาเข้าไป แย่ลงกว่าเก่า
11. ออกเสียงให้ถูก a mess หรือ amaze
12. ช่วงเช็คความเข้าใจ text 3 น่าจะขึ้นคำถามบนจอแทน text มั้ย ไม่งั้นก็จะไม่ฟังแต่แรกแล้วมาอ่านผ่าน ๆ เพื่อหาคำตอบเอาตอบครูถาม แต่อย่าลืมบอกก่อนให้ฟัง/อ่านว่าจะมีคำถามตามมา ต้องกระตุ้นนิดนึง
13. be grounded เป็น passive ดังนั้น If he doesn’t clean up his room, he will grounded. ผิดมั้ย???
14. สรุปว่าขั้น input ยังเบาเกินไป เป็นเพลงกระบี่ที่ไร้ลีลา teacher talk ล้นโอ่ง เหนื่อยแทนครู

Getting it
1. มาถึงวันนี้แล้วยังต้องถามว่า Do you know what a representative? อีกเหรอ น่าจะรู้คำนี้นานแล้วมั้ย / คำอธิบายฟังดูยังไม่เคลียร์แต่เด็กเหมือนจะเข้าใจ แล้วไป
2. Alternate to be the representative แปลว่าอะไร???
3. Directions ควรบอกให้ปิดหนังสือมั้ย ไม่งั้นก็ไม่ได้มีการ recall อะไรเลย ดูรูปแล้วลอกประโยคเอาซือ ๆ / เมื่อมีการเปิดหนังสือแล้วลอก แสดงว่าขั้นที่แล้วป้อนไม่พอใช่มั้ย

Using it
1. มาอีกแล้ว Do you know what paragraph? ปกติสอนอะไรมั่งเนี่ย
2. จากที่ดูการนำเสนอหลายคนยังใช้ has/have ไม่ถูก เป็นเพราะอะไร?
3. บางคนยังงง ๆ บางคนยังมองหน้ากัน บ้างก็เปิดหนังสือไปมา แสดงว่าที่สอนไปครั้งก่อนลืมหมดแล้ว นั่นหมายความว่าป้อนไม่พอใช่หรือไม่ ถ้าป้อนพอมันควรจะเห็นการลงมือทำโดยไม่ต้องลังเลมองซ้ายมองขวา
4. ทุกคนได้ออกมาพูดมั้ยเพราะดู ๆ แล้วน่าจะใช้เวลาเขียนไม่นาน หลายคนก็ลอกเอาจากสมุดหนังสือ เหมือนจะไม่ได้คิดเองมากนัก
5. My sister have the grounded. รู้สึก fail มั้ย? ตงิดตั้งแต่เห็นสอนคำนี้ใน text 1 ละว่าท้ายสุดจะเป็นไง ก็เป็นไปตามคาด เด็กยังไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เกี่ยวอะไรกับบทนี้
6. กิจกรรมดูเบาไป ไม่ค่อยมีลีลาหรือตื่นเต้นเท่าไหร่

ชลธิชา B++

Comprehensible Input
1. วีดีโอ lead in ดูน่าสนใจดี แต่การพาเข้าสู่วีดีโอดูห้วนไปหน่อย อารมณ์เหมือนเข้าโรงหนังแล้วหนังฉายเลย ยังไม่ได้ดูพรีวิวอะไรเลย ไม่ต้องรีบเข้าสู่บทเรียนก็ได้ ทักทายกันบ้างเล็กน้อย break the ice บ้างอะไรบ้าง บอกเพิ่มอีกนิดก็ดีว่าจะดูวีดีโอเกี่ยวกับอะไร ดูไปทำไม แจ้ง purpose เพื่อไม่ให้ดูแบบล่องลอยไร้จุดหมาย
2. ทำไมวีดีโอมันไร้ซึ่งเสียงประกอบ หรือว่าตัดต่อช่วงนั้นออกไป?
3. We are live in… รับไม่ได้!!!! / น่าจะบอกให้หมดเลยว่า 7 continents มีอะไรบ้าง
4. มี review vocab ก่อนเข้าสู่ text 2 ดีมาก
5. มาละคำถามยอดฮิตเวลาสอน text 2 – What is adjective? What is…..? น่าจะให้ยกตัวอย่างแทนการถามว่าคืออะไรนะ จะเห็นภาพได้ดีกว่า / ถึงจุดนี้เสียงหายไป รู้สึกเหมือนคนหูอื้อ เร่งเสียงให้ดังจนกำแพงสั่นก็ได้ยินไม่เต็มที่ ครั้งต่อไปตรวจสอบให้เรียบร้อย
6. linking verb describe the feeling of subjects เหรอ? ถ้าบอกว่าเอาไว้เชื่อม sub กับ adj จะโอเคกว่ามั้ย
7. ช่วงอ่าน linking verb น่าจะใส่เสียง native มาเลย เพราะบางคำครูยังไม่เป๊ะ เช่น feel หรือถ้าได้ฟัง native บ่อย ๆ เวลาออกเสียงคำที่เหมือนภาษาถิ่นหรือ minimal pair จะได้พูดถูก เช่น sound-ยี่สิบ feel-few-fill เป็นต้น / อุตส่าห์มีประโยคตัวอย่างมาให้ดิบดีแต่ละเลยไปซะงั้น แล้วเมื่อไหร่คนที่เข้าใจยากจะเข้าสักที
8. เวลาถามให้เด็กตอบ ถ้าเด็กตอบผิดไม่ควร feedback ด้วยคำว่า NO หาคำอื่นที่ encourage ให้อยากตอบอยากลอง
9. สอนการเรียง adj 9 ตัวเลยเหรอ!!! เยอะไปมั้ย? 3 น่าจะกำลังดี / flow chart ที่ใช้ดูยากไป ถ้าเรียงให้ดูในรูปแบบของประโยคเลยน่าจะเห็นภาพกว่า size age shape color อะไรทำนองนี้
10. text 3 เสียงกลับมาแล้ว รอดตัวไป / เอาอีกแล้ว จะเปิดสื่อแต่ไม่บอกไม่พูดไม่กล่าว ฟังโล้ดสู ซะงั้น
11. How many population …? ตั้งสติก่อนสตาร์ท พยายาม monitor ตัวเองให้มากขึ้น
12. สรุปขั้น input เกือบจะดี มันเบาไปหน่อย ขั้นป้อนต้องป้อนเยอะ ๆ ให้อิ่มกว่านี้ มีทบทวนก่อนเปลี่ยนเรื่องด้วยจะดีมาก แต่ถ้าทำเยอะก็ดีไป ไม่ต้องตัดต่อออกก็ได้ถ้ามี ถ้าจะบอกว่าแผ่นไม่พอคราวต่อไปก็อัพลงยูทูปเอานะ อยากดูแบบเต็ม uncut special limited edition

Getting it
1. ขึ้นจอว่า 4-5 แต่ตอนพูดบอก a group of 5 ควรเตี้ยมกับตัวเองให้ดีว่าจะเอาเลขไหน เด็กจะได้ไม่สับสนกับคำสั่ง ครูจะได้ไม่ต้องคอยตอบคำถามเผื่อบางกลุ่มจะขอ 4
2. ครูดูเหมือนจะสะดุดเล็กน้อย คงไม่ได้เตรียมคืนก่อนสอนนะ ไม่น่าใช่หรอกเนอะ
3. Bambam have a… ตาย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ / ตอนเฉลยทำตัวใหญ่จะดีนะ แล้ว text กับ background ควร contrast กันอย่างชัดเจน ฟ้ากับขาวนี่ไม่ผ่าน / ตกลงว่าตั้งใจเขียน have เพื่อเช็คความเข้าใจ หรือครูไหวตัวทันเลยเนียนว่าให้เด็กแก้ด้วย? ถ้าเป็นอย่างหลังก็ถือว่ารอดตัวไป แต่ถ้าเป็นอย่างแรกก็อย่าลืมนะว่านี่คือกิจกรรมเรียงคำ ไม่ใช่แก้คำผิด อย่าปนกัน ต้องแยกจุดประสงค์ของกิจกรรมให้ชัดเจน
4. ตอนสอน text 2 เห็นเน้นแค่ possessive กับ number มีแค่สองตัวนี้ที่สอนชัด ๆ ส่วนตัวอื่นมีให้เห็นแค่ใน flow chart แต่พอเอามาทำกิจกรรมมันมาหมดเลย พอถึงข้อ half-American two tall sons her นี่หลายกลุ่มดูจะผิด แสดงให้เห็นว่าจำนวนของ adj เยอะไปมั้ยในคาบเดียว? ยังไม่สำเร็จตามคาด
5. ดีมากที่มี review ตอนท้ายกิจกรรม แต่ถ้าย้ำมาดีตั้งแต่ต้นคงจะทำได้ดีกว่านี้ / กิจกรรมนี้ดี ตอบโจทย์ ได้ฝึก text 2

Using it
1. ก่อนเริ่มการนำเสนอควร get attention จากทั้งห้องก่อน เอาให้เงียบก่อนค่อยเริ่มพูด / directions ไม่ตีกรอบว่าให้ใช้ adj จาก text 2 ทีนี้ก็จะเขียนไปทั่วทีบทั่วแดน
2. ดีมาก ได้พูดทุกคนทั้งกลุ่ม
3. New York City is the capital city of America. หนังสือเล่มไหน ใครสอน
4. ที่นำเสนอมามันดูจะล้ำหน้าเด็กไปมาก เขียนเองหรือก้อบมาจากไหนนิ
5. กลุ่มที่สองที่นำเสนอพูดอไรไม่รู้เรื่อง ครูพูดอะไรด้วยฟังไม่ชัด There is a beautiful and อะไรสักอย่าง and อะไรสักอย่าง / แต่ขอชมที่ครูแก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกดี ไม่ดุ ไม่ทำให้เสียหน้า ใช้ได้
6. สรุปว่ากิจกรรมนี้ตอบโจทย์ได้ดี เพียงแต่คำสั่งกว้างเกินไป ไม่ได้ตีกรอบให้อยู่ในเนื้อหาที่สอน ครูยังไม่ energetic พอ เด็กเลยเอื่อยตาม ต้องมีลีลามากกว่านี้

ศวิตา B+

Comprehensible Input
1. ครูลิ้นพันกันนะ Do they want to meet มีเสียง –ch ติดมาด้วย / คำถามวีดีโอ lead in เอาสักสองสามข้อก็ได้หรอก ไม่ต้องรีบขนาดนั้น break the ice บ้าง ถ้ามีมากกว่านี้แต่ตัดต่อออกไปก็แล้วไป
2. look at the picture and try to guess the meaning = เยี่ยมมาก!!! ไม่ใช่เอะอะก็ถามคำนี้แปลว่าอะไร มียกตัวอย่างจากตัวครูและถามให้เด็กตอบโดยดึงจากปรสบการณ์ตัวเอง มี meaning เกิดขึ้น ดีเยี่ยม / text 1 ไปเร็วเกิน(หรือมีมากกว่านี้แต่ตัดออก) ยังไม่ทันอิ่มครูก็หยุดป้อนซะละ
3. text 2 appointment คำนี้คืออะไร เด็กงง ไม่ต้องรีบสอนแล้วรีบถามว่า Do you understand? แค่มองหน้าก็น่าจะรู้ใจว่าเข้าใจไม่เข้าใจ ไม่ควรรีบจะเข้าสู่เนื้อหา ควรพยายามอธิบายโดยให้ตัวอย่างเหมือนที่ทำใน text 1 คำว่า appointment  ตัวอย่างแค่ “When you want to go somewhere with your friends you have to make an appointment before you meet.” ยังไม่เห็นภาพพอ ก็เล่าเลยสิวันนี้นักเรียนอยากไปเที่ยวกับเพื่อน นักเรียนเลย make an appointment โดยถามว่าเพื่อนว่างกี่โมงคะ จะไปเจอกันที่นั่นตอนนี้ได้มั้ย และนี่คือ appointment จบข่าว อะไรทำนอนนี้
4. เจอทุกปีทุกชาติตั้งแต่เริ่มอาชีพนี้ คำว่า accept ทำไมชอบอ่านเป็น except และ vice versa / ตรงนีให้ตัวอย่างการตอบรับได้ดีมาก เห็นภาพชัดเจน
5. ควรแยกย่อยเนื้อหา text 2 ออกนะ ยัดรวมกันหน้าเดียวตัวเล็กไป text ขาว background เหลือง ก็ไม่ไหวนะ
6. These are the questions that you can use when you want to invent someone….. เมื่อคืนหนักไปหน่อยใช่มั้ยเลยเมาค้าง invite invent
7. เวลาให้ repeat ควรกระตุ้นให้เด็ก energetic นิดนึง คำถามชวนเพื่อนเที่ยวแต่อ่านเอื่อย ๆ เนือย ๆ ถ้าเอาไปใช้จริงแบบนี้คนฟังต้องคิดว่าชวนแบบไม่เต็มใจแน่
8. เรียกเด็กตอบก็เรียกชื่อก็ดีนะ ไม่ใช่เดินไปแล้วก็ YOU!!! ใส่แบบนั้น
9. เกือบละ เกือบถูกละ These are the เอ็ค แซพ ติ้ง uhhh เอ็ค เซพ ติ้ง = มี self-monitor แต่ยังสับสน ถือว่ายังสามารถพัฒนาต่อได้ เอาใจช่วย
10. ทำไมเด็กดูง่วง ๆ งงงง เกิดอะไรขึ้นกับคาบนี้ แค่อ่านตามยังไม่อยากทำ
11. ครูมีความพยายามดีนะในการเรียกให้ตอบในขั้นเช็คความเข้าใจ พยายาม scaffold ตะล่อมเต็มที่
12. ฝึกอ่านชื่อ Laura เพิ่มนะ
13. ครูพาอ่าน text 3 โดยครูเป็น 1 ใน 3 ตัวละคร มีส่วนร่วมไปด้วยกัน ดีนะ
14. อีกครั้ง ครูมีความพยายามสูงมากในการเปิดปากเด็ก ในช่วง review ซึ่งเด็กควรจะพอตอบได้บ้างแต่ทำไมไม่ค่อยได้กัน เป็นเพราะอะไร? ตอนป้อนให้ไม่เพียงพอหรือเปล่าเลยไม่กล้าตอบ?

Getting it
1. directions ดูงงงงนะ ครูไม่ค่อยลื่นไหล
2. เป่านกหวีด คือ blow the whistle นะ ไม่ใช่ I will make some noise.
3. กิจกรรมนี้ดูน่าสนุกดีนะ ได้ขยับร่างกาย ไม่ง่วงไม่หลับ แต่ที่ควรแก้คือขึ้นเป็น guideline บนจอแทน dialogue ตัวอย่าง ไม่งั้นเด็กก็ไม่ได้คิดเอง หันไปมองแล้วตอบ ไม่เกิดการฝึกใช้ expression ที่หลากหลาย Are you free ก็ Are you free อยู่นั่นหละห้ารอบหกรอบ Yes, I’d like to ก็พูดอยู่ซ้ำ ๆ go to cinema ก็ไปอยู่ที่เดียว นัดเจอกันก็ at the bus stop ทั้งห้อง / จะปรับปรุงยังไงได้บ้าง?

Using it
1. roles play เช็คการสะกดคำด้วย!!!! / But C is speaking at fist. แปลว่าอะไร??????
2. ครูมีความพยายามในการอธิบาย directions + example แต่เหมือนจะเรียบเรียงความคิดได้ซับซ้อนไปหน่อย ตัวละครสามตัว เดี๋ยวคนนั้นโทรหาคนนี้ คนนู้นว่าง คนนี่ไม่ว่าง คนนั้นพูดก่อน คนนี้พูดก่อน งง ต้องอ่านห้ารอบถึงเข้าใจ แล้วมี 3 situations แต่เขียนแค่ situation 1 ก็นึกว่าทำไม situation เดียวมี 3 situations ย่อย ตรวจสอบการสะกดคำและหัวข้อต่าง ๆ ให้ถูกต้องในคราวต่อ ๆ ไป / ควรทำ slide ให้มี situation เดียวต่อ slide จะได้งงน้อยลง แม้จะต้องเขียนเงื่อนไขซ้ำอีกก็ไม่เป็นไร แยกให้เห็นชัด ๆ ไปเลย ดีกว่ามาบอกว่าใครพูดก่อนแล้วคนนี้ไปไม่ได้ ใครพูดก่อนแล้วคนนี้ไปได้
3. กิจกรรมขั้นนี้น่าจะเปิดกว้าง ไม่ต้องจำกัดว่าจะต้องชวนกันไปดูหนังได้มั้ย ให้มันแตกต่างจากในหนังสือเพื่อที่จะให้เด็กได้คิด ไม่งั้นก็จะได้เหมือนกันทั้งห้อง คือ ลอกหนังสือมาทั้งห้อง แล้วผลลัพธ์ก็ไม่เชิงพูดสื่อสารแต่เป็นการอ่านโพยที่ลอกมาจากหนังสืออีกที เกือบจะดีละ ปรับเพิ่มนิดนึง